"เราไม่มีทางกลับไปใช้กระดาษแน่นอน" ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ย่อท้อ เมืองคิตะคิวชูได้ปฏิรูปการทำงานให้เป็นดิจิทัล (DX) ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 3 เท่า และได้ช่วยให้สำนักงานสาธารณสุขสามารถรับมือกับโรคโควิด-19 ได้

สำนักงานสาธารณสุข เมืองคิตะคิวชูที่ต้องเผชิญหน้ากับกองเอกสารที่เต็มสำนักงาน การจัดการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น และปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสำนักงานสาธารณสุขมีหน้าที่ติดต่อประสานงานกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และได้จดบันทึกข้อมูลลงในกระดาษเป็นหลัก หลังจากนั้นจึงป้อนข้อมูลลงใน Excel ทำให้การจัดการซับซ้อน และลำบากยิ่งขึ้น ต่อมา เมื่อการแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ปริมาณงานก็เพิ่มขึ้น พอเริ่มใช้ Kintone และปฏิรูปการทำงานให้เป็นดิจิทัล (DX) ผู้ที่นำ Kintone มาใช้งาน และผลักดันการปฏิรูปการทำงานให้เป็นดิจิทัล (DX) ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวคือ คุณโนโซมิ อิโนะอุเอะ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าแผนกมาตรการทางการแพทย์ด้านโรคติดเชื้อ กองสาธารณสุข และสวัสดิการของเทศบาลเมืองคิตะคิวชู (เป็นแผนกภายในสำนักงานสาธารณสุขเพื่อรับมือกับโควิด-19 โดยเฉพาะ) แม้จะต้องเผชิญกับการระบาดหลายระลอก คุณอิโนะอุเอะก็ไม่ยอมแพ้ และยังคงเดินหน้าปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณอิโนะอุเอะถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
【อุปสรรค】จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจนเกินขีดจำกัดการทำงานของเจ้าหน้าที่หน้างานที่ทำงานแบบอนาล็อก ทำให้เจ้าหน้าที่อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นมา เมื่อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองคิตะคิวชู สำนักงานสาธารณสุขได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:
- รับและจัดเก็บเอกสาร “รายงานผู้ติดเชื้อ” ที่ส่งมาทางแฟกซ์จากสถานพยาบาล
- โทรหาผู้ติดเชื้อเพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น เช่น วันที่เริ่มแสดงอาการ และสถานที่รักษาตัว จากนั้นจดข้อมูลลงในสมุดแล้วประเมินว่า จำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือไม่ และจัดหาเตียงผู้ป่วยในกรณีที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
- สำหรับผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวที่บ้าน เจ้าหน้าที่จะโทรติดตามอาการวันละ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลานานสูงสุดถึง 10 วัน และจดข้อมูลสุขภาพในแบบฟอร์ม “บันทึกการเฝ้าสังเกตสุขภาพ”
ข้อมูลทั้งหมดนี้ถูกบันทึกด้วยมือลงบนกระดาษ และเก็บไว้ในสมุดบันทึกเอกสาร จากนั้นจึงคัดลอกข้อมูลสำคัญลงใน Excel อีกครั้งเพื่อบริหารจัดการข้อมูล
ท่ามกลางความโกลาหลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัญหาต่างๆ เริ่มถาโถมมากยิ่งขึ้นทุกวัน แต่เดิมกระบวนการทำงานก็ยุ่งยากอยู่แล้ว ยังต้องใช้ทั้งสมุดบันทึกเอกสาร และ Excel อย่างซ้ำซ้อน ซึ่งบางครั้งข้อมูลที่อัปเดตในสมุดบันทึกเอกสารก็ไม่ได้ถูกบันทึกใน Excel อีกทั้ง เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น สมุดบันทึกเอกสารก็เพิ่มขึ้นจนกระจัดกระจายไปทั่วสำนักงานสาธารณสุข ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาจัดระเบียบเอกสารเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา
ปีถัดมา ในปี พ.ศ. 2564 จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่ลักษณะการทำงานยังคงยุ่งยากและซับซ้อนเหมือนเดิม ในช่วงเวลาที่จำนวนงานเยอะมาก เราต้องเพิ่มจำนวนพนักงานชั่วคราวเพื่อรับมือกับปริมาณงาน แต่ว่าเราก็เริ่มถึงขีดจำกัด ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงการระบาดระลอกที่ 5 ที่จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงสุดในเดือนสิงหาคม ปี 2564
“จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงประมาณ 2.6 เท่า สถานการณ์วิกฤตถึงขนาดที่ต้องโทรติดต่อผู้ติดเชื้อราว 2,000 สายต่อวัน แล้วยังต้องจัดการสมุดบันทึกเอกสารหลังจากนั้น หากจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สำนักงานสาธารณสุขไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ก็อาจจะเสี่ยงต่อความปลอดภัยและชีวิตของประชาชน ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกกังวลมากเลยครับ”

ห้องเก็บของเต็มไปด้วยลังกระดาษ

จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวัน
ดังนั้น คุณอิโนะอุเอะจึงตัดสินใจเริ่มต้นปรับปรุงการทำงานโดยใช้ Kintone โดยเมืองคิตะคิวชูได้ร่วมมือ และลงนามทำข้อตกลงกับบริษัท ไซโบสุ อิงค์ (Cybozu Inc.,) ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการทำงานด้วยดิจิทัล (DX) ในเดือนกันยายน พ.ศ.2564 ระหว่างคลื่นการระบาดระลอกที่ 5
หลังจากนั้น ภายใต้การสนับสนุนของ "DIGI LABO Help Desk" ซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้สำนักงานส่งเสริมเมืองดิจิทัลของเทศบาลเมืองคิตะคิวชู คุณอิโนะอุเอะจึงตัดสินใจพัฒนาแอปสมุดบันทึกผู้ติดเชื้อขึ้นด้วยตัวเองบนแพลตฟอร์ม Kintone
"ถ้าจะให้ดีที่สุดควรจ้างมืออาชีพภายนอกมาช่วยพัฒนาให้ แต่สถานการณ์การทำงานในช่วงโควิดนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราจึงต้องปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของแอปได้อย่างรวดเร็วเช่นกันครับ
เช่น ตอนแรกเรากำลังสอบถามข้อมูลจากผู้ติดเชื้อ และผู้สัมผัสใกล้ชิดอยู่ แต่ระหว่างทางก็เปลี่ยนมาเน้นเฉพาะผู้ติดเชื้อเท่านั้น รายละเอียดคำถามต้องปรับให้เน้นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่ออาการรุนแรง เป็นต้น ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอครับ
ถ้าจ้างบริษัทข้างนอกมาพัฒนา เราต้องระบุความต้องการใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง และขอใบเสนอราคา ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานที่ช้า และไม่ตอบโจทย์ความต้องการของเราครับ"
การใช้ปลั๊กอินในแอปก็มีข้อจำกัดอย่างมาก ระบบ Kintone ของเมืองคิตะคิวชูใช้ระบบ LGWAN (เครือข่ายภาครัฐสำหรับงานบริหารทั่วไป) ซึ่งเป็นเครือข่ายปิดเฉพาะของภาครัฐ ทำให้สามารถใช้ปลั๊กอินได้ค่อนข้างน้อย
ท่ามกลางข้อจำกัดดังกล่าว คุณอิโนะอุเอะก็ยังคงมุ่งมั่นปรับปรุงการทำงานต่อไป
[การแก้ปัญหา] เมื่อ 1 ปีก่อน คุณอิโนะอุเอะได้เข้าร่วมงาน Kintone Hive ซึ่งช่วยเขาได้อย่างมาก เขาสัญญาว่า "ผมจะต้องยืนอยู่บนเวทีนี้ให้ได้" และในที่สุดก็สามารถทำตามคำสัญญานั้นได้สำเร็จ
แอปตัวแรกที่คุณอิโนะอุเอะสร้างนั้นไม่ได้ผลลัพธ์ที่พอใจเท่าไหร่ เนื่องจากปัญหาหลายอย่าง เช่น พอกรอกข้อมูลที่ได้รับฟังจากผู้ติดเชื้อ หน้าจอของข้อมูลที่กรอกยาวเกินไป ทำให้ใช้งานยาก และไม่สามารถแสดงผลปีในรูปแบบปีปฏิทินญี่ปุ่นได้
"ถึงแม้จะรู้สึกแม้จะต้องใช้เวลา แต่ผมก็ไม่อยากกลับไปใช้การทำงานแบบกระดาษอีกแล้ว จึงพยายามแก้ไขแอปด้วยตัวเอง และค่อยๆ ปรับปรุงไปทีละนิด ถึงแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ในการใช้ JavaScript มาก่อน แต่ผมก็เริ่มจากการหาข้อมูล และศึกษาเรียนรู้ทุกวันครับ"

ผลลัพธ์ของความพยายามนั้นปรากฏขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2565 เมื่อแอปที่เขาพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ และได้แก้ไขหน้าจอกรอกข้อมูล และการแสดงผลปีเป็นปฏิทินญี่ปุ่นได้สำเร็จ ตอนนี้สามารถใช้แอปจัดการ และบันทึกข้อมูลของผู้ติดเชื้อ และการเฝ้าสังเกตอาการประจำวัน แทน Excel ได้แล้ว
แต่คุณอิโนะอุเอะโล่งใจได้อยู่ไม่นาน เพราะในเดือนถัดมา ได้เกิดคลื่นการระบาดระลอกที่ 6 ที่พีคขึ้นมา ทำให้คุณอิโนะอุเอะต้องมุ่งมั่นพัฒนาแอปให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากในช่วงการระบาดระรอกที่ 6 นั้นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 4.4 เท่าจากครั้งก่อน ทำให้ภาระงานของพนักงานเพิ่มขึ้นอย่างมากจนไม่สามารถจัดการได้ด้วยระบบเดิม
"ผมไม่สามารถพัฒนาระบบได้ทันการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อในระดับนี้ได้ ถึงตอนนั้นจะมีเจ้าหน้าที่สนับสนุนจากแผนกอื่นๆ มาช่วย แต่สถานการณ์ในตอนนั้นก็ใกล้จะวิกฤตเต็มทีแล้วครับ"
"สิ่งที่ยากสำหรับเจ้าหน้าที่คือ การเขียนข้อมูลจากผู้ติดเชื้อลงบนกระดาษด้วยมือ แล้วนำข้อมูลนั้นไปกรอกใน Kintone ทีหลัง ซึ่งสำหรับขั้นตอนนี้มีเสียงเรียกร้องว่าอยากทำให้สามารถใช้ OCR เพื่อระบุ และอ่านตัวอักษรที่เป็นลายมือบนกระดาษ แล้วนำเข้าข้อมูลลงใน Kintone โดยอัตโนมัติ แต่การทำแบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ เป็นงานที่หนักสำหรับผมจริงๆ (หัวเราะ)"
ถึงแม้ว่างคุณอิโนะอุเอะจะเคยรู้สึกแม้จะต้องใช้เวลา และหาทางออกไม่เจอ แต่การที่เขาได้เข้าร่วม Kintone Hive Fukuoka ในเดือนเมษายน 2565 กลับกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาพบทางออก การได้ฟังเรื่องราวจากผู้คนที่พบกับปัญหาคล้ายๆกัน และได้ใช้ Kintone เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ทำให้คุณอิโนะอุเอะรู้สึกมีกำลังใจในการเดินหน้าต่อไป
"หลังจากการต่อสู้ของผมจบลง ผมคิดว่าคำมั่นสัญญาที่ 'ผมจะต้องขึ้นบนเวทีนี้ให้ได้!' มันทำให้ผมรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจจริงๆ (หัวเราะ) ขณะเดียวกัน ผมยังได้รู้จักกับคอมมิวนิตี้ และเซสชันการศึกษาเรียนรู้ของ Kintone ซึ่งทำให้ผมรู้วิธีการรวบรวมข้อมูล และพบกับเพื่อนร่วมงานที่มีความสนใจเหมือนกัน ผมได้ทั้งความรู้และแรงจูงใจใหม่ๆ มาจากที่นั่นครับ"
[ผลลัพธ์] คุณอิโนะอุเอะสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญในการสร้างระบบการกรอกข้อมูลอัตโนมัติได้สำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องมากที่สุด และได้เปลี่ยนทัศนคติของเจ้าหน้าที่ต่อการทำงานไปในทิศทางที่ดีขึ้นอีกด้วย
การปรับปรุงแอปดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และในเดือนพฤษภาคม 2565 ก็ได้รูปแบบแอปที่เป็นรูปธรรม และสามารถเปลี่ยนจากการใช้ข้อมูลที่เขียนบนกระดาษแล้วค่อยกรอกเข้าไปใน Kintone เป็นการใช้ AI-OCR เพื่อรับรู้ตัวอักษร และนำเข้าข้อความที่เขียนด้วยมือโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องมากที่สุด เจ้าหน้าที่จึงมีหน้าที่เพียงตรวจสอบข้อมูลที่กรอกเข้ามา ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก
"หลังใช้ AI-OCR จำนวนข้อมูลที่กรอกโดยเฉลี่ยต่อคนในหนึ่งวันเพิ่มขึ้นจาก 75 รายการเป็น 120 รายการ นอกจากนี้ หลังจากเปลี่ยนจากการใช้กระดาษ ไปใช้ Kintone ผมคำนวณว่าเราได้ลดเวลาการทำงานได้ประมาณ 2,700 ชั่วโมง และลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 10 ล้านเยน"
การปรับปรุงการทำงานของคุณอิโนะอุเอะไม่ได้มีแค่การใช้ AI-OCR เท่านั้น ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ต้องโทรอธิบายหลายอย่างกับผู้ติดเชื้อโดยตรง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นภาระงานที่หนักมากสำหรับเจ้าหน้าที่ แต่ยังเป็นภาระสำหรับผู้ติดเชื้อเองด้วย ดังนั้น เขาจึงได้รวมเนื้อหาที่ต้องอธิบายเหล่านั้นไว้ในแอป Kintone และใช้เครื่องมือ kViewer สร้างหน้าเว็บที่สามารถจำกัดผู้เข้าชม และส่ง URL ของหน้านั้นไปยังรายการผู้ติดเชื้อผ่านข้อความ SMS ระบบนี้ช่วยลดภาระทั้งสำหรับผู้ติดเชื้อและเจ้าหน้าที่ และยังทำให้การตรวจสอบสถานะการอ่านข้อความทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
"จากที่ต้องใช้เวลาอธิบายทางโทรศัพท์ประมาณ 17 นาทีต่อเคส ตอนนี้ลดลงเหลือเพียง 11 นาที นอกจากนั้น การติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ที่เคยทำผ่านแฟกซ์ ก็เปลี่ยนเป็นรูปแบบดิจิทัลด้วยการใช้ FormBridge * การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รวมแล้วช่วยลดเวลาการทำงานทั้งปีได้มากกว่า 18,000 ชั่วโมงครับ"
* บริการที่เชื่อมต่อกับ Kintone ที่ให้บริการโดยบริษัท Toyota Kumomo Co., Ltd
ต่อมา ในระลอกที่ 7 ของการแพร่ระบาด จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในหนึ่งวันมีมากถึง 2,897 คนต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงกว่าครั้งก่อนเกือบ 3 เท่า แต่จำนวนเจ้าหน้าที่ที่สังกัดในสำนักงานสาธารณสุขยังคงมีจำนวนใกล้เคียงกับในช่วงการระลอกที่ 6 แต่ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้ คุณอิโนะอุเอะมองว่า Kintone ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นถึง 3 เท่า

เนื่องจากมีผลลัพธ์ที่ดีในหลายแผนก เมืองคิตะคิวชู จึงมีแผนที่จะมอบบัญชีใช้งานของ Kintone ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนในปีงบประมาณ 2566 การที่คุณอิโนะอุเอะได้เริ่มต้น DX การทำงานในช่วงวิกฤตโควิด-19 นับเป็นก้าวแรกของการปฎิรูปการทำงานของเมืองคิตะคิวชูอย่างแท้จริง
เกี่ยวกับ Kintone
Kintone เป็นเครื่องมือในการพัฒนาแอปพลิเคชันทางธุรกิจโดยไม่ต้องเขียนโค้ด เพื่อการจัดการข้อมูล การสื่อสาร และกระบวนการต่าง ๆ ในที่เดียว ผู้ใช้ Kintone สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่อัตโนมัติสำหรับกระบวนการธุรกิจ ร่วมงานในโครงการ/งาน และรายงานข้อมูลที่ซับซ้อนได้โดยใช้คลิกแทนการเขียนโค้ด
สำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นทันที Kintone ยังมีโปรแกรมแอปพลิเคชันที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับหลายกรณีการใช้งาน เช่น CRM การจัดการโครงการ การจัดการสินค้าคงคลัง และอื่น ๆ อีกมากมาย
Kintone ยังมีบริการสนับสนุนฟรีเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่า Kintone เป็น โซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับคุณ!


Terms of Use │ Privacy Policy │ Kintone Global site
© 2025 Kintone (Thailand) Co., Ltd. All Rights Reserved.