JD Food บริษัทผู้ผลิตผงปรุงรสและอาหารอบแห้งผู้อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือร้านอาหารแฟรนไชส์ เป็นที่รู้จักในธุรกิจอาหารทั่วโลกในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผงปรุงรสและวัตถุดิบแปรรูป JD Food เปรียบเสมือนครัวกลางที่ส่งมอบรสชาติอร่อยให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอาหารมากมายในประเทศไทย

บริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจแบบ Made to Order และ OEM เป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 92% ของรายได้ทั้งหมด ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ในธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร เจดีฟู้ด สร้างสรรค์ผงปรุงรสและสูตรอาหารแก่ลูกค้ามากกว่า 10,000 รายการ โดยให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (ONE STOP SERVICE) ตั้งแต่การดูแลรับโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าในขั้นตอนแรกด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงวิเคราะห์ปรับปรุงรสชาติ การให้คำแนะนำต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขยายแฟรนไชส์โดยยังคงรสชาติดั้งเดิม หรือคิดค้นรสชาติใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหาร ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากว่า 500 ราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนั้น ยังมีแบรนด์ภายใต้ความดูแลอีก 3 แบรนด์ คือ ‘กินดี’ ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปที่ทำง่าย แต่ได้รสชาติไทยแท้แบบดั้งเดิม ‘CRISPCONUT’ อาหารว่างรสชาติเข้มข้นสำหรับคนรักสุขภาพ ทั้งยังสามารถนำไปดัดแปลงเป็นส่วนประกอบในอาหารว่างอื่น ๆ ได้ ‘OK ผงปรุงรส’ ตัวชูรสชาติที่สะดวกและรวดเร็ว เพียงเติมลงในอาหารเพื่อเพิ่มความอร่อยให้จานโปรด และน้องใหม่ล่าสุด ‘GOODEATS’ ผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักสุขภาพ มาในรูปแบบซุปกึ่งสำเร็จรูป และขนมโปรตีนอบกรอบ สะดวก อร่อย ง่ายๆ ได้ทุกที

หนึ่งในความเชี่ยวชาญอันเป็นจุดเด่นของเจดีฟู้ด ได้แก่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้ามะพร้าวอบกรอบซึ่งผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและควบคุมด้วยระบบที่ได้มาตรฐานระดับโลก

ทุกการผลิต ทุกผลิตภัณฑ์ คือความมุ่งมั่นที่เจดีฟู้ด ทุ่มเทเพื่อพัฒนาธุรกิจและเป็นผู้นำตลาดด้านผงปรุงรสที่น่าเชื่อถือตลอดไป อีกทั้งปัจจุบัน JD Food ยังโลดแล่นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย (SET) อีกด้วย

คุณธีรดา หอสัจจกุล, รองกรรมการผู้จัดการ ผู้ให้สัมภาษณ์ยังกล่าวอีกว่า

“ตลาดอุตสาหกรรมอาหารในไทยเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนก็ต้องมีการบริโภค ส่วนมากคนทั่วไปจะไม่รู้จักว่าเราคือใคร แต่ถ้าเดินตามห้างทั่วไป จะเป็นพาร์ทนึงในการผลิตของเขาตลอด เป็น Supplier ให้แทบทุกเจ้าในประเทศไทย”.

JD Food ตัดสินใจเลือกใช้ Kintone จากหลายปัจจัยที่สำคัญ ดังต่อไปนี้:

1. การเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่นๆ: ก่อนตัดสินใจเลือก Kintone, JD Food ได้ทำการเปรียบเทียบอย่างละเอียดในด้านต่างๆ รวมถึงการทำงาน, การใช้งาน, และมาตรการพัฒนา ซึ่งทั้งหมดนี้พบว่า Kintone มีข้อได้เปรียบที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมืออื่นๆ ในตลาด
2. ราคา: ราคาของ Kintone นั้นดีกว่าเครื่องมืออื่นๆ ที่พวกเขาได้ทำการสำรวจ ความคุ้มค่าในเรื่องราคาเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ JD Food เลือก Kintone
3. การแนะนำจากบุคคลในวงการ: JD Food ได้รับการแนะนำ Kintone จากบุคคลในวงการอุตสาหกรรมอาหาร, ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าโซลูชั่นนี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาการใช้กระดาษและสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้ระบบ Paperless ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ JD Food มั่นใจยิ่งขึ้นในการตัดสินใจเลือกใช้ Kintone
4. ความง่ายในการใช้งานและการปรับแต่ง: ความสามารถในการใช้งานที่ง่ายและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของ JD Food เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้พวกเขาเลือก Kintone มาใช้ในการจัดการงานของพวกเขา

โดยรวมแล้ว, JD Food เลือก Kintone จากการเปรียบเทียบอย่างละเอียด, ราคาที่คุ้มค่า, ความมั่นใจจากการใช้งานจริงในอุตสาหกรรมเดียวกัน ทั้งหมดนี้ทำให้ JD Food มั่นใจในการเลือกใช้ Kintone เพื่อรองรับความต้องการของพวกเขาในการทำงานแบบ Paperless

JD Food ได้ดำเนินการอย่างมีระบบและจัดเตรียมขั้นตอนการปรับใช้ (deployment) อย่างเป็นระเบียบเพื่อให้ระบบเข้ากับการทำงานของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น:

เริ่มจากการเก็บข้อมูลและการพัฒนาแอปพลิเคชัน

1. การเก็บข้อมูลจากผู้ใช้งานจริง:
   ทีม IT ได้ทำการสอบถามและเก็บข้อมูลความต้องการจากผู้ใช้งานจริงเพื่อทำความเข้าใจว่าพนักงานต้องการใช้งานระบบอย่างไรให้เหมาะสมที่สุดกับงานของพวกเขา
2. การพัฒนาแอปพลิเคชัน:
   ฝ่าย IT จัดการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ตามข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้ สร้างแอปที่เข้าใจง่ายและตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละแผนก
3. การทดลองใช้แอปพลิเคชัน:
   ในช่วง testing, ตัวแทนจากแต่ละแผนกได้ทดลองใช้แอปที่พัฒนาขึ้น ช่วงนี้เป็นโอกาสให้พนักงานทดลองใช้และถามคำถามได้ โดยทีม IT จะทำการปรับแต่งและตอบคำถามตามที่เกิดขึ้น
4. การปล่อยใช้แอปพลิเคชันแบบเต็มรูปแบบ:
   หลังจากที่มีการทดสอบและปรับแต่งจนได้ที่ แอปจะถูกปล่อยให้พนักงานทั้งหมดใช้งาน
5. การฝึกอบรมและการใช้งาน
   การฝึกอบรมและจัดทำคู่มือ: มีการจัดฝึกอบรมและสร้างคู่มือการใช้งาน Kintone ให้กับพนักงานทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานระบบใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ขั้นตอนการ Implement ของ JD Food

ในขั้นตอนการ Implement บริษัท แมทธีเรียล ออโตเมชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยดูแลและให้บริการ Kintone สำหรับ JD Food เพื่อให้การปรับใช้ระบบเป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกับความต้องการขององค์กร

JD Food ได้ประสบความสำเร็จในการใช้ Kintone ทำให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในการจัดการเอกสารและลดต้นทุนต่างๆ ดังนี้:

สรุปผลลัพธ์การใช้ Kintone ของ JD Food

ตัวอย่างการใช้งานแอปพลิเคชัน

1. ทุกหน่วยงาน (OPEX, CAPEX):
   • ใช้ในการขอใช้งบประมาณประจำปี ทำให้การติดตามและควบคุมงบประมาณของแต่ละแผนกง่ายขึ้น
   • ช่วยให้การอนุมัติงบประมาณสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งส่งผลดีต่อกระบวนการทำงานของฝ่ายบัญชีเนื่องจากสามารถตรวจสอบและประมวลผลได้ง่ายขึ้น
2. App memo:
   • มีระบบ Auto-running number ช่วยให้การจัดการเอกสารมีระเบียบและติดตามได้ง่ายขึ้น
   • ช่วยให้การอนุมัติงานต่างๆ สะดวกและรวดเร็ว

   • การจัดเก็บและค้นหา ง่ายขึ้น

2.ตัวอย่างการใช้งาน Auto-numbering plugin

Auto-numbering เป็นปลั๊กอินฟรีที่ทาง Kintone ให้ใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ปลั๊กอินนี้สามารถช่วยในการรันหมายเลขเอกสารโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และยังช่วยให้การค้นหาเอกสารในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้งาน

• การรวมข้อมูล: การรวมข้อมูลที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์สามารถทำได้ภายใน 10 นาที ด้วยระบบ Kintone ที่เข้ามาช่วยให้กระบวนการนี้เร็วขึ้นอย่างมาก
• Workflow approval: กระบวนการอนุมัติที่ใช้เวลา 2 วันก่อนหน้านี้สามารถลดลงเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมง

การนำระบบ Kintone มาใช้ที่ JD Food จึงไม่เพียงแต่เป็นการแก้ปัญหาการใช้กระดาษเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านการปรับแต่งและการใช้งานที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานจริง

คุณรักษมล วจีปะสี ผู้ดูแล Kintone Project มาตั้งแต่เริ่มต้นยังกล่าวอีกว่า

"Kintone ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้เรื่อง Coding แค่มี Logic และเข้าใจ Workflow ก็พัฒนาแอปได้”

JD Food มีแผนการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้งาน Kintone เพื่อรองรับการเติบโตและการพัฒนาทางธุรกิจในอนาคต ด้วยการขยายการใช้งาน Kintone ไปยังกระบวนการอื่นๆ ในองค์กร บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพของระบบการทำงานโดยรวม นอกจากนี้ยังมีแผนการที่จะทำให้ระบบของ Kintone เชื่อมต่อกับ ซอฟต์แวร์ HR อื่นๆ ที่ใช้งานอยู่ เพื่อปรับปรุงการจัดการข้อมูลพนักงานและกระบวนการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น:

การขยายการใช้งาน Kintone

• การเชื่อมต่อกับ Solution อื่น: การบูรณาการข้อมูลจาก HR Solution กับ Kintone เพื่อการจัดการข้อมูลพนักงานที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลพนักงานได้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน
• การขยายการใช้งานไปยังกระบวนการต่างๆ: การนำ Kintone ไปใช้ในกระบวนการที่ยังไม่ได้ถูกครอบคลุม เช่น การจัดการสินค้าคงคลัง, การจัดซื้อ, หรือกระบวนการการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในการทำงาน
• การส่งเสริมการสื่อสาร: JD Food ต้องการส่งเสริมการสื่อสารในบริษัทเพื่อมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจในทิศทางและเป้าหมายของบริษัทให้กับพนักงานทุกคน

การนำ Kintone ไปใช้ในการเชื่อมต่อและการขยายการใช้งานที่กว้างขึ้นนี้จะเป็นก้าวสำคัญของ JD Food ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานและการจัดการข้อมูลในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความท้าทายและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

#SuccessCase #SuccessStory #JDFood #Kintone #BusinessManagement #Production #Manufacturer #FoodIndustry #Workflow #Dailyreport #Paperless #DigitalTransformation