"Food Innopolis"หรือ"เมืองนวัตกรรมอาหาร" หน่วยงานภาครัฐที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในการยกระดับธุรกิจอาหารให้กับผู้ประกอบการทุกระดับ
ตั้งแต่การให้คำแนะนำเบื้องต้น ไปจนถึงการให้คำปรึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของเครือข่ายเมืองนวัตกรรมอาหาร เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขัน และผลักดันธุรกิจให้ก้าวไกลทั้งในตลาดภูมิภาค และตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิ ในบทความนี้…ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำความรู้จักเมืองนวัตกรรมอาหารให้มากขึ้น ทั้งในด้านแนวคิด วิสัยทัศน์ และแนวปฏิบัติซึ่งล้วนมีส่วนสำคัญในการผลักดันองค์กรไปสู่ความสำเร็จ รวมไปถึงมุมมองในการนำแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอย่าง “Kintone” (คินโทน) เข้ามาส่งเสริมศักยภาพการทำงาน และยกระดับการบริการในรูปแบบ One-stop Service ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

1.About Food Innopolis (เกี่ยวกับ เมืองนวัตกรรมอาหาร):

Food Innopolis

คุณสุธีรา อาจเจริญ (ที่ปรึกษาอาวุโส และ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Food Innopolis) และทีม Food Innopolis

Food Innopolis เป็นหน่วยงานภาครัฐภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2559 โดยมี คุณสุธีรา อาจเจริญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Food Innopolis

จุดมุ่งหมายของเมืองนวัตกรรมอาหารนั้น
คือการเพิ่มมูลค่าและยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยผ่านการให้บริการแบบ One-Stop Service ที่ครบครันและเบ็ดเสร็จในจุดเดียว พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย SME สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ รวมถึงนักลงทุนจากต่างประเทศที่ต้องการลงทุนธุรกิจอาหารในประเทศไทย การให้บริการ และการสนับสนุนครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวิจัยและนวัตกรรมด้านอาหาร ไปจนถึงการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง พร้อมแข่งขันได้ทั้งในตลาดภูมิภาคและตลาดโลก

โดยคุณสุธีรา อาจเจริญ ได้กล่าวถึงหัวใจของการดำเนินการเอาไว้ว่า:

“เราเป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ เป็นเพื่อนคู่คิดให้กับผู้ประกอบการ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและให้การสนับสนุนในทุกย่างก้าว เรามักจะบอกว่าเราทำหน้าที่เสมือนเป็นเลขาส่วนตัวที่คอยช่วยอำนวยความสะดวก ช่วยบริการในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำนวัตกรรมอาหาร ไม่ว่าผู้ประกอบการมีเป้าหมายหรือมีความตั้งใจอยากจะทำอะไรก็ตาม”

“เราอยากเป็นที่ๆ ผู้ประกอบการนึกถึงเป็นคนแรกเมื่อต้องการพัฒนานวัตกรรมอาหาร แล้วก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้เขาไปถึงเป้าหมายตรงนั้นได้จริงๆ”

คุณสุธีรา อาจเจริญ
(ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Food Innopolis)

2. Challenges (ปัญหาก่อนหน้าที่จะนำ Kintone เข้ามาใช้):

แน่นอนว่าในการทำงาน ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในส่วนถัดไปนี้ จะพาไปสำรวจปัญหาหลักที่เคยเป็นอุปสรรคระหว่างการดำเนินงานของ Food Innopolis ก่อนที่จะนำ Kintone เข้ามาใช้เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  1. ปัญหาเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล: มีผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปที่ต้องการขอรับบริการของ Food Innopolis และติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งการขอข้อมูล และ ขอรับคำปรึกษา รวมไปถึงความต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการหาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตน นอกจากนี้ความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละรายมักไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเรื่องเดียว และต้องการการสนับสนุนในหลายด้าน จึงทำให้มีข้อมูลการให้บริการเป็นจำนวนมาก และมีความต้องการการจัดเก็บข้อมูลให้ครบถ้วนและเป็นระบบ กลายเป็นปัญหาและความท้าทายที่สำคัญในกระบวนการทำงาน
  2. ปัญหาเกี่ยวกับการทำให้ข้อมูลเชื่อมโยงและเข้าสู่ศูนย์กลาง: นอกจากปัญหาในการจัดเก็บข้อมูล ความท้าทายที่ตามมาคือการทำให้ข้อมูลนั้นเชื่อมโยงกัน และอยู่ในศูนย์กลางที่ทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงและใช้งานร่วมกันได้ด้วย เนื่องจาก Food Innopolis มีการจัดกิจกรรมต่างๆมากมายทั้งกิจกรรมภายในและภายนอกหน่วยงาน อีกทั้งในช่วงแรกของการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละท่านเมื่อได้รับข้อมูลมาก็มักจะเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ประกอบกับรูปแบบการทำงานของฝ่ายพัฒนาธุรกิจต้องมีการประชุมหารือ พบปะกับผู้ประกอบการ และการลงพื้นที่หน้างานค่อนข้างมาก พนักงานส่วนใหญ่ทำงานอยู่นอกสำนักงานเป็นหลัก ทำให้ข้อมูลผู้ประกอบการในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่แต่ละท่านถูกจัดเก็บอยู่กระจัดกระจาย ไม่ได้บันทึกเข้าระบบส่วนกลางได้โดยทันที และข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงมีความต้องการระบบการจัดเก็บข้อมูลการทำงานส่วนกลางที่เชื่อมโยงกัน มีรูปแบบที่เหมาะกับการทำงานในรูปแบบต่างๆ สามารถใช้งานได้ง่าย และเข้าถึงด้วยอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ของเจ้าหน้าที่แต่ละท่านได้ทันที

ความท้าทายและความต้องการตัวช่วยในการทำงานเหล่านี้…จึงทำให้ทีมงานฝ่ายพัฒนาธุรกิจได้เริ่มต้นค้นหาและทดลองใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่มีระบบใดที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน จนกระทั่งได้มาเจอกับ Kintone

3.Why Kintone (ทำไมต้องเลือก Kintone?):

Kintone (คินโทน) คือแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการข้อมูลและระบบการทำงานในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เป็นรูปแบบ No-code ที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโค้ดก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ผู้ใช้งานสามารถออกแบบรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล การส่งต่อประสานงาน และการสื่อสารได้อย่างอิสระ ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ตามความต้องการของแต่ละองค์กร

คุณสุธีรา อาจเจริญ
(ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Food Innopolis)

“เราเป็นหน่วยงานที่มีการปรับเปลี่ยนการทำงานให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจึงมองหาระบบที่มีความ Flexible ไปกับเรา…ที่จะสามารถปรับรูปแบบการใช้งานต่าง ๆ ให้มันสอดคล้องไปกับการทำงานของเราได้

น้อง ๆ ในทีมเขาก็อยากได้อะไรที่มาช่วยปรับเปลี่ยนชีวิตการทำงานของเขาให้มันสะดวก คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เขาก็เลยไปเสิร์ชหาแพลตฟอร์มต่าง ๆ จนได้ไปรู้จักกับ Kintone”

“อันหนึ่งเลยที่เรียกว่าดึงความสนใจของเราให้เริ่มทำความรู้จัก Kintone คือการที่เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานของระบบให้สอดคล้องกับการทำงานของเราได้เอง โดยที่เราไม่ต้องเขียนโค้ดเป็น”

คุณสุธีรา อาจเจริญ กล่าว

ซึ่งเมื่อได้ทำความรู้จักและทดลองนำ Kintone มาใช้แล้ว พบว่า Kintone สามารถตอบโจทย์การทำงานได้เป็นอย่างดี…นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทีมพัฒนาธุรกิจ Food Innopolis ตัดสินใจนำ Kintone มาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานของหน่วยงาน

คุณสุธีรา ได้เอ่ยถึงบทบาทของ Kintone ว่าไม่เพียงเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ในส่วนของการเก็บข้อมูลและการเชื่อมโยงข้อมูลสู่ศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเสริมศักยภาพในการทำงานภายในหน่วยงานให้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น การเป็นตัวช่วยทำรายงาน และ การบริหารจัดการระบบงานอื่น ๆ ภายในให้เป็นระบบระเบียบ อีกด้วย

  • แก้ปัญหาการจัดเก็บข้อมูล และ การเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง (Centralized Information):
    เมื่อนำ Kintone เข้ามาใช้ทีมงานสามารถจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในระบบกลางเพียงที่เดียวได้ โดยรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์หลากหลาย เช่น แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และมือถือ ซึ่งสมาชิกในทีมได้ร่วมกันออกแบบฟอร์มสำหรับบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้เป็นข้อ ๆ และเป็นลำดับตาม workflow ของการทำงาน เมื่อจะต้องพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการบันทึกลงไปก็พิมพ์แค่ คีย์เวิร์ด หรือ ประเด็นที่สำคัญ การจดบันทึกอย่างกระชับเช่นนี้จะทำให้รับรู้ว่าใจความหลักคืออะไรและต้องทำสิ่งใดกับข้อมูลนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ข้อมูลกิจกรรม หรือข้อมูลในการให้บริการต่าง ๆ ทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้อยู่ในส่วนกลางที่เดียวกันซึ่งก็คือ Kintone ซึ่งทุกคนก็สามารถเข้าถึงและนำไปใช้ทำงานต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยในการทำรายงาน (Report):
    สามารถนำข้อมูลที่เก็บไว้ในระบบ Kintone มาเปิดดูและวิเคราะห์เพื่อนำไปจัดทำรายงานได้อย่างง่ายดาย เช่น สามารถตรวจสอบได้ว่าในแต่ละแพลตฟอร์มนั้นทีมงานได้มีการให้บริการลูกค้าแต่ละรายไปแล้วกี่ครั้ง มีความก้าวหน้าหรือมีอุปสรรคปัญหาอย่างไร นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการสร้าง Report ออกมา ด้วยฟังก์ชันที่สามารถดึงข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ออกมาเป็นรูปแบบของใบงานได้เพียงคลิกเดียว พร้อมส่งต่อให้หน่วยงานอื่น ๆ ดำเนินการต่อได้ในทันที
  • การจัดการระบบภายในทีม (Internal System):
    Kintone ช่วยให้การติดตามงานภายในทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทีมงานสามารถติดตาม และตรวจสอบได้ว่าการดำเนินการมีความก้าวหน้าอย่างไร ดำเนินการถึงขั้นตอนไหน และจะต้องส่งต่อให้ใคร หรือหน่วยงานใดเป็นลำดับถัดไป นอกจากนี้ Kintone มีระบบที่สามารถแจ้งเตือนการจัดเอกสารที่ให้เป็นไปตามนัดหมาย หรือเวลาที่กำหนดไว้ พร้อมพื้นที่สำหรับให้จัดเก็บเอกสารดังกล่าวอีกด้วย ส่งผลให้ทีมงานทำงานง่ายขึ้นเมื่อข้อมูลถูกเก็บเป็นระบบในที่เดียว นอกจากนี้หากหัวหน้าทีมต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม หรือติดตามความคืบหน้าการทำงาน ก็สามารถเข้าไปเปิดดูข้อมูลในระบบเองได้ทันที โดยไม่ต้องรอเรียกรายงานจากทีมงาน

4.Kintone Result (ผลลัพท์ที่ได้จาก Kintone):

จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า Kintone ได้เข้ามามีบทบาทเป็นตัวช่วยในการแก้ไขปัญหาด้านการจัดเก็บข้อมูลและการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในด้านการงาน และการบริหารจัดการระบบภายในทีมได้อย่างเห็นผลที่ชัดเจน ในส่วนนี้…จึงอยากจะพาทุกท่านไปชมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงจากการที่ Food Innopolis ได้นำ Kintone มาใช้ในการทำงาน ผ่านตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ดังนี้:

  1. เก็บข้อมูลได้ครบถ้วนมากขึ้น:
    จากเดิมสามารถจัดเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครบถ้วนเพียง 60 - 70% แต่หลังจากนำ Kintone มาใช้งาน ข้อมูลการทำงานในระบบมีความสมบูรณ์ และเป็นปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 90% ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของข้อมูลโดยรวม
  2. ระยะเวลาการทำงานลดลง:
    ก่อนนำ Kintone มาใช้งาน ทีมงานต้องเปิดฐานข้อมูลหลาย ๆ อันเวลาจะทำงานครั้งหนึ่ง หากบันทึกที่หนึ่งแล้ว ต้องไปบันทึกอีกที่หนึ่ง หรือต้องย้ายข้อมูลจากที่เขียนบนกระดาษไปบันทึกในฐานข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์อีกครั้ง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาไปมากกว่า 1 ชั่วโมงในการบันทึกข้อมูลแต่ละครั้ง แต่เมื่อนำ Kintone มาใช้ ระยะเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ละท่านนั้นลดน้อยลง โดยเฉลี่ยเหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการทำงานลงอีกด้วย
  3. ประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น:
    เมื่อสามารถลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำงานลง นั่นหมายถึงทีมงานจะมีเวลาสำหรับการทำงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรม หรือการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพการทำงานโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสร้างความพึงพอใจของการทำงานของทีมโดยรวมได้อย่างมาก

และไม่เพียงแต่การประยุกต์ใช้งานในปัจจุบันเท่านั้น ทางคุณสุธีรายังมีแนวคิดที่จะขยายการใช้ Kintone ไปสู่การทำงานรูปแบบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานของทีมอีกในอนาคต

คุณสุธีรา อาจเจริญ
(ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ของ Food Innopolis)

ในอนาคตประสงค์อยากจะนำ Kintone ไปใช้เพิ่มเติมในส่วนใดอีก?

คุณสุธีรา อาจเจริญ ได้ให้เกียรติตอบคำถามว่า:

“ยังมีฟีเจอร์หลายส่วนใน Kintone ที่เรายังไม่ได้ลองใช้ เราจึงอยากจะใช้งานระบบให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น”

“ทุกวันนี้เราใช้ Kintone เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันกันอยู่แล้ว เราสามารถลองผิดลองถูกกับ Kintone ได้ตลอด ถ้าเราลองสร้าง Workflow แล้วมันไม่ตอบโจทย์การทำงาน เราก็สามารถปรับใหม่ได้ทันที เพราะว่าระบบมี App ที่หลากหลาย มีความ Flexible และเราสามารถนำมาปรับให้เหมาะกับรูปแบบการทำงานของเราได้”

5. Food Innopolis’s mission and Kintone’s involvement (ก้าวต่อไปกับ Kintone)

Food Innopolis มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมและให้คำปรึกษาด้านการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อยกระดับธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่องค์กรไม่ได้มุ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังและตั้งใจที่จะเป็นองค์กรภาครัฐที่สมัยใหม่ มีความคล่องตัว พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการในการเข้าถึงและติดต่อประสานงานกับหน่วยงาน และที่ผ่านมา Food Innopolis ก็สามารถรักษาภาพลักษณ์นี้ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด และเชื่อว่าการนำระบบ Kintone มาใช้จะช่วยเสริมความสามารถในการบริหารจัดการงานและรักษาภาพลักษณ์เชิงบวกนี้ได้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต

โดยที่คุณสุธีรากล่าวถึงจุดยืนขององค์กรไว้ ดังนี้:

“สิ่งแรกในการวางโครงสร้างองค์กรและรูปแบบการทำงานของเราคือ เราอยากเป็นองค์กรภาครัฐที่ทำงานรวดเร็วและคล่องตัวไม่แพ้องค์กรภาคเอกชน ถ้ามีลูกค้าติดต่อเราเข้ามา เราจะติดต่อกลับภายใน 1 วันทำการ อันนี้คือสิ่งที่เราทำมาตลอดเกือบจะ 10 ปีแล้ว เราให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการให้บริการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรามองหาเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเราต้องทำงานแข่งกับเวลาอยู่ตลอด มีหลายครั้งที่คนเข้าใจว่า Food Innopolis เป็นหน่วยงานเอกชน อันนี้ก็เป็นภาพลักษณ์ที่เราอยากจะรักษาเอาไว้ในการทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ”

6.Before You Go: A Final Thought on Kintone (บทสรุปเกี่ยวกับ Kintone)

ก่อนจะจบบทความนี้ คุณสุธีราและคุณมนัสวี เรืองเดช (เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ใช้งาน Kintone จริง) ได้ให้เกียรติฝากข้อคิดสำคัญเกี่ยวกับประโยชน์ของ Kintone พร้อมส่งต่อข้อความถึงผู้ที่ยังไม่เคยได้ลองใช้ Kintone ให้เปิดใจสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ซอฟต์แวร์ตัวนี้สามารถมอบให้กับคุณ

คุณมนัสวี เรืองเดช ได้กล่าวถึงประสบการณ์การใช้งานว่า หากให้เทียบ Kintone กับระบบอื่น ๆ ที่เคยใช้มา รู้สึกว่าระบบ Kintone ใช้งานได้ง่าย เข้าใจง่าย สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำผ่านมือถือก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดคอมพิวเตอร์ทุก ๆ ครั้ง

“เมื่อได้ใช้ไปสักระยะหนึ่ง ทุกคนก็จะคุ้นเคยกับระบบ และทำให้เราสามารถทำงานและใช้งานได้อย่างรวดเร็วขึ้น”

คุณสุธีราได้ฝากแนวคิดที่ชวนให้ลองเปิดใจใช้ Kintone ทิ้งท้ายเอาไว้ ในส่วนของการนำข้อมูลที่มีมาใช้ประโยชน์สูงสุดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ

“อยากให้ลองมาทดลองใช้ Kintone ดูก่อน จากประสบการณ์แล้ว ยิ่งองค์กรเราเล็กเท่าไหร่ เรายิ่งต้องการเครื่องมือมาช่วยให้การทำงานสะดวกและง่ายขึ้น รวมถึงช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

คนส่วนใหญ่อาจจะกังวลว่า การนำระบบเข้ามาใช้จัดการฐานข้อมูลมีค่าใช้จ่ายสูง และต้องคำนึงถึงจำนวนบุคลากรที่มากเพียงพอที่จะใช้งานฐานข้อมูลให้เกิดความคุ้มค่า นอกจากนี้จะต้องมีเจ้าหน้าที่ IT หรือโปรแกรมเมอร์อยู่ในทีม เพื่อช่วยในการเขียนโค้ด หรือปรับเปลี่ยนฐานข้อมูลให้ใช้งานได้จริง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก แต่ว่าอยากให้มองในอีกมุมหนึ่งว่า…แล้วถ้าเราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดของเรามาใช้ให้เป็นประโยชน์ล่ะ? มันจะสามารถช่วยสร้างหรือเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจเราหรือประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ดีมากแค่ไหน”

การเลือกใช้ Kintone จึงเป็นคำตอบที่น่าสนใจ เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดหรือมีความรู้เรื่องไอทีเชิงลึก เนื่องจากเป็นระบบ 'ลากและวาง' (Drag-and-drop) ที่สามารถสร้างแอปพลิเคชันสำหรับจัดการฐานข้อมูลได้อย่างง่ายดาย เป็นระบบ One-stop Service เช่นเดียวกับการบริการของ Food Innopolis ที่ ครบ จบ ในที่เดียว ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากก็สามารถสร้างและจัดการบริหารข้อมูลได้อย่างมืออาชีพ

เรียกได้ว่า Kintone ไม่เพียงตอบโจทย์ธุรกิจในด้านจัดการข้อมูล แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานไปพร้อมกับสร้างมูลค่า และยกระดับประสิทธิภาพองค์กรได้อย่างรอบด้าน

ทีม Food Innopolis และ ทีม Kintone

FOOD INNOPOLIS (ฟู้ดอินโนโพลิส), เมืองนวัตกรรมอาหาร

About the company

Company name:
Food Innopolis (ฟู้ดอินโนโพลิส), เมืองนวัตกรรมอาหาร

Industry:
หน่วยงานภาครัฐด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมอาหาร

Use Case:
Client database, Centralized, Project management, Activity log, Event management, Report, Internal management, Formbridge

website:https://fppms.or.th/

#SuccessCase #SuccessStory #FoodInnopolis #Kintone #Database #Centralized #ProjectManagement #BusinessManagement #ClientDatabase #Management #ActivityLog #Report #InternalManagement #EventManagement #ProjectManagement #Formbridge

About Kintone

Kintone เป็นเครื่องมือในการพัฒนาแอปพลิเคชันทางธุรกิจโดยไม่ต้องเขียนโค้ด เพื่อการจัดการข้อมูล การสื่อสาร และกระบวนการต่าง ๆ ในที่เดียว ผู้ใช้ Kintone สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่อัตโนมัติสำหรับกระบวนการธุรกิจ ร่วมงานในโครงการ/งาน และรายงานข้อมูลที่ซับซ้อนได้โดยใช้คลิกแทนการเขียนโค้ด

สำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นทันที Kintone ยังมีโปรแกรมแอปพลิเคชันที่สร้างไว้ล่วงหน้าสำหรับหลายกรณีการใช้งาน เช่น CRM การจัดการโครงการ การจัดการสินค้าคงคลัง และอื่น ๆ อีกมากมาย

Kintone ยังมีบริการสนับสนุนฟรีเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่า Kintone เป็น โซลูชั่นที่เหมาะสมสำหรับคุณ!

Kintone Thailand

Terms of UsePrivacy PolicyKintone Global site

© 2025 Kintone (Thailand) Co., Ltd. All Rights Reserved.